ขั้นตอนและวิธีการทำ Tax Return ออนไลน์ 2012 ด้วยตนเอง
แล้วก็ถึงเวลาเคลม Tax ประจำปีกันอีกแล้ว ใครที่เคยทำกันต้องแต่ปีที่แล้วก็อาจจะพอประสบการณ์กันบ้าง แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยทำ เรามาดูกันดีกว่าว่าจะเริ่มต้นกันอย่างไรดี ถ้าตัดสินใจจะเคลม Tax ออนไลน์ด้วยตนเองกัน
ปีภาษีของออสเตรเลียนั้น จะเริ่มตั้งแต่วัน ที่ 1 กรกฎาคม จนถึง
30 มิถุนายน ของปีถัดไป
เมื่อหมดปีภาษีทางรัฐบาลก็จะต้องให้ทุกคนที่ทำงานมีรายได้ต้องจัดการกับการจ่ายภาษีของตนเอง
ใครจ่ายไม่ครบก็ต้องจ่ายเพิ่ม ใครจ่ายเกินไว้ก็ทำเรื่องขอคืนซะ เหมือนกับการเสียภาษีของบ้านเรานั่นแหล่ะครับ ทีนี้มาลองดูอัตราภาษีของปีที่แล้วกันดีกว่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง
|
จะเห็นว่าคนที่รายได้ไม่ถึง 6,000 เหรียญก็จะไม่ต้องเสียภาษี
ส่วนที่เกินนั้นเราก็โดนหักจากนายจ้างในแต่ละเดือนไป
แต่โดยส่วนใหญ่ พวกที่มาวีซ่า work and holiday หรือ WAH อย่างเราๆ ก็จะไม่ได้ทำงานกับนายจ้างเดียวกันตลอดทั้งปีอยู่แล้วเพราะมีข้อกำหนดห้ามไว้ ส่วนค่าจ้างก็เปลี่ยนไปตามแต่ละนายจ้าง ซึ่งแต่ละที่ก็จะหักภาษีไว้ไม่เท่ากันเพราะเขาคำนวณจากรายได้ประมาณการของทั้งปี และนั่นคือสาเหตุหนึ่งที่ทำไมเราต้องทำการเคลมเงินส่วนนี้ของเราคืนครับ เงินของใคร ของใครก็หวง ทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรามาแทบตาย จริงไหมครับ ส่วนช่องทางในการขอคืนภาษีก็สามารถทำได้หลักๆ
สองช่องทางคือ
1. ทำโดยกรอกแบบฟอร์มที่สามารถขอได้ตามร้านขายยา
และร้านหนังสือทั่วไปครับ จากนั้นก็ส่งไปยัง ATO ซึ่งการขอคืนโดยวิธีนี้อาจจะได้เงินคืนช้ากว่าอีกวิธีหนึ่งเพราะต้องมีการตรวจเอกสารและใช้เวลาในการจัดส่งด้วย
2. ทำโดยวิธีออนไลน์
ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกกว่าอีกวิธีนึง เพราะรวดเร็ว และไม่ต้องกรอกเอกสารมาก
ทั้งยังได้เงินคืนเร็วกว่าอีกวิธีหนึ่งด้วย
ส่วนวิธีการนั้น จะทำเองก็ได้ หรือจะให้ Tax agent เป็นคนทำให้ก็ได้ครับแล้วแต่ใครจะสะดวกอย่างไร
ทีนี้เรามาดูถึงวิธีการเคลมแบบออนไลน์กันดีกว่า...สิ่งที่เราจะต้องเตรียมก่อนที่จะเคลมแบบออนไลน์คือ
- ข้อมูลส่วนตัวของเรา เช่นวันเดือนปีเกิด เบอร์บัญชี รวมทั้งหมายเลข BSB, NOA (ถ้ามี)
- PAYG Payment Summary หรือ Group Certificate ก็แล้วแต่ใครจะเรียกครับ แล้วเราจะไปเอาใบนี้มาจากไหนกันล่ะ เราก็ต้องไปขอนายจ้างของเราให้ออกไปนี้ให้ ถ้าไม่มีเราก็จะไม่รู้ว่าเราโดนหักภาษีไปเท่าไหร่ และรายได้ของเราตลอดทั้งปีภาษีเป็นจำนวนเท่าไหร่ ทำที่ไหนไปขอที่นั่นนะครับ หน้าตาตัวอย่างของ Payment Summary ครับ
- ข้อมูลในส่วนประกันสุขภาพ/ประกันการเดินทาง เช่นประกันของอะไร และเลขที่สมาชิกหรือเลขที่กรมธรรม์คืออะไร
- ข้อมูลที่จะนำมาลดหย่อนภาษี เช่นใบเสร็จในการซื้อสิ่งของที่จะนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้
- ใบ Medicare Levy exemption ซึ่งสามารถขอได้จาก
- อื่นๆ เช่น ใบเสร็จบริจาคเงินให้องค์กรการกุศลต่างๆ ฟอร์มจากบริษัทประกัน
เมื่อมีข้อมูลต่างๆ เรียบร้อยแล้ว เราก็มาเริ่มทำตามขั้นตอนกันเลยดีกว่า
1. เข้าไปโหลดโปรแกรมขอคืนภาษีได้ที่ลิงค์นี้ครับ http://www.ato.gov.au/individuals/content.aspx?menuid=0&doc=/content/32234.htm&page=5#P105_515
* ใครใช้แมคอาจจะใช้โปรแกรมนี้ไม่ได้นะครับ
2. Install โปรแกรมให้เรียบร้อย แล้วคลิ๊กเข้าไปที่โปรแกรมไป ก็จะมีหน้านี้ปรากฏขึ้นมาว่าให้อัพเดทโปรแกรมให้คลิ๊ก Check for update ไป
จากนั้นโปรแกรมก็จะมีข้อความขึ้นมาเตือนว่าให้ต่ออินเตอร์เน็ท คลิ๊กโอเคไปครับ
3. ตั้งชื่อไฟล์ของเรา จากนั้นก็กรอก Tax File Number แล้วก็คลิ๊ก Next
1. เข้าไปโหลดโปรแกรมขอคืนภาษีได้ที่ลิงค์นี้ครับ http://www.ato.gov.au/individuals/content.aspx?menuid=0&doc=/content/32234.htm&page=5#P105_515
* ใครใช้แมคอาจจะใช้โปรแกรมนี้ไม่ได้นะครับ
2. Install โปรแกรมให้เรียบร้อย แล้วคลิ๊กเข้าไปที่โปรแกรมไป ก็จะมีหน้านี้ปรากฏขึ้นมาว่าให้อัพเดทโปรแกรมให้คลิ๊ก Check for update ไป
โปรแกรมจะทำการอัพเดทโดยอัตโนมัติ ก็ให้คลิ๊กโอเคไป
จากนั้นโปรแกรมจะถามว่าต้องการจะโหลดไฟล์ที่มีอยู่หรือไม่ ถ้าใครไม่มีเก็บไว้ในเครื่องก็ตอบ No ส่วนใครที่มีอยู่แล้วก็จะต้องใส่ Tax File Number เพื่อที่จะดึงไฟล์หรือข้อมูลเก่าขึ้นมา
ก็จะมีคุณลุงขึ้นมาพล่ามใครสนใจอยากรู้ว่าเขาบ่นไรอยู่ก็ลองอ่านกันดูนะครับ คลิ๊ก Next ไปเรื่อยๆ โปรแกรมก็จะบอกต่อว่าปีนี้มีอะไรแตกต่างจากปีที่แล้วบ้าง ก็คลิ๊กไปเรื่อยๆ ครับ จนมาถึงหน้า Personal Detail ไม่ต้องกลัวนะครับ ว่าจะกรอกอะไรผิดพลาดเพราะข้อมูลที่เรากรอกนั้นยังไม่มีการส่งไปที่ ATO จนกว่าเราจะกดปุ่ม lodge ครับ ดังนั้นเราสามารถแก้ไขกี่รอบก็ได้จนกว่าเราจะพอใจครับ
4. ใส่ข้อมูลส่วนตัวลงไป
- Your Sex: เพศ ผู้ชายใส่ Male ผู้หญิงใส่ Female
- Title: คำนำหน้าชืื่อ ใครอยากเป็นอะไรใส่ไปเลยครับ จะเป็น Lord เป็น Sir อะไรก็ว่าไป แต่ปกติก็ใส่แค่ Mr. สำหรับผู้ชาย และ Ms. สำหรับผู้หญิงครับ
- Family Name: นามสกุล
- Given Name: ใส่ชื่อ
- Other Names: ใครเปลี่ยนชื่อ หรือมีชื่อเรียกอื่นๆ ก็ใส่ไป หรือถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ เว้นว่างไว้ครับ
- Date of Birth: วันเดือนปีเกิดโดยใส่แบบ วัน/เดืือน/ปีคศ.เกิดสี่หลัก
Are you an Australian resident for tax purposes? ตอบ Yes
5. Has your family name change?
ถ้าไม่มีการเปลี่ยนนามสกุล ข้อนี้ก็เว้นว่างไปไม่ต้องกรอกครับ คลิ๊ก Next
6. Prefilling ข้อนี้เป็นการเก็บข้อมูลไปไว้ที่ ATO ครับ ให้คลิ๊ก No
7. Rollover อันนี้เป็นการดึงข้อมูลขอปีที่แล้วมาครับจะได้ไม่ต้องกรอกรายเอียดเยอะ ใครขี้เกียจก็คล๊ิก Yes ส่วนคนที่เพิ่งทำปีนี้ปีแรกก็ คลิ๊ก No ครับ
8. Current Postal Address
- ใส่ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ เพราะ Notice of Assessment จาก ATO จะส่งไปตามที่อยู่นี้ครับ
- Has this address changed since completing your last tax return? ใครเปลี่ยนที่อยู่จากปีที่แล้วก็ใส่ Yes ส่วนคนที่ไม่ได้เปลี่ยนที่อยู่หรือไม่เคยทำ Tax Return เลยก็ใส่ No
- ใส่เบอร์โทรศัพท์ และอีเมลล์ที่สามารถติดต่อได้ เพราะเมื่อเคลมเวลาได้เงินคืนแล้วจะมีการแจ้งมาทางอีเมลล์ด้วยครับ จากนั้นก็คลิ๊ก Next
9. Home address ถ้าที่อยู่ที่บ้านเป็นที่เดียวกันกับที่ให้ส่งจดหมายไป ก็ติ๊กไปที่ช่อง Use current postal address ที่อยู่ก็จะขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ จากนั้นก็ติ๊กที่ด้านล่างสุดกรณีที่เปลี่ยนที่อยู่ให้ติ๊ก Yes ถ้าอยู่ที่เดิมให้ติ๊ก No จากนั้นก้คลิ๊ก Next
10. Do you need to lodge the tax return? คุณต้องทำ Tax Return หรือไม่ ตอบ Yes
11. Will you need to lodge an Australian tax return in the future? คุณจำเป็นจะต้องทำ tax return ในอนาคตหรือไม่ ให้ตอบ Yes
12. Do you have a spouse at any time during 2011 - 2012? มีคู่ครองไหมช่วงปีที่ผ่านมา ถ้ามีใส่ Yes ถ้าไม่มีใส่ No
13. Electronic fund transfer ใส่หมายเลขบัญชีที่เราจะให้โอนเงินคืนให้ครับ
- BSB Number เป็นหมายเลข 6 หลัก คือ 2 ตัวแรกรหัสธนาคาร 4 ตัวหลังรหัสสาขา สามารถเช็คได้ใน Statement ที่ธนาคารส่งมา หรือที่เว็บไซต์ของธนาคารครับ
- Account Number ใส่หมายเลขบัญชี
- Account Name ใส่ชื่อบัญชี
จากนั้นก็คลิ๊ก Next
ก็จะมีหน้า Progress Summary ขึ้นมา คลิ๊ก Next ไป ก็จะเข้าสู่ส่วนของ Income ต่อไป
โปรแกรมก็จะขึ้นมาว่าในส่วนของ income จะต้องกรอกอะไรบ้าง หลักๆ ที่ต้องกรอกก็จะเป็น ข้อ 1, 8 และ 10 ครับ เรามาดูในรายละเอียดกันดีกว่า
14. Salary or wages รายได้ทั้งหมดที่ถูกหักภาษีไว้และแสดงไว้ใน PAYG Payment summary ให้คลิ๊ก Yes
โปรแกรมก็จะขึ้นมาเตื่อนว่า คุณต้องมี Payment Summary นะ แต่คุณไม่จำเป็นจะต้องส่งมาให้ทาง ATO แต่ให้เก็บไว้เป็นหลักฐานภายใน 5 ปี ใครที่ยังไม่มีก็ไปขอซะ มีเวลาทำได้ถึงสิ้นเดือนตุลาคมครับ คลิ๊ก Next เพื่อไปหน้าถัดไป
15. Main salary or wage occupation ให้ใส่อาชีพหลักของเรา เลือกใส่จาก drop down list ครับ ส่วนใหญ่พวกเราก็จะเป็น waitperson กัน หรือไม่ก็ factory worker บางอาชีพก็อาจจะมีให้เลือกย่อยไปอีกว่าทำในส่วนไหน จากนั้นคลิ๊ก Next
16. ใส่รายละเอียดลงไปครับ ถ้าทำงานสองที่ก็ใส่แยกกันคนละบรรทัด
- Payer's ABN ใส่เลข ABN ของนายจ้างครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่หัวหรือท้ายกระดาษของ PAYG ที่ได้มาจากนายจ้างครับ
- Gross salary ให้ใส่จำนวนรายได้ทั้งหมดที่ได้รับจากนายจ้างครับ ดูจาก PAYG ที่ได้มา
- Lump sum A เงินที่ได้เป็นก้อน ถ้าไม่มีจำนวนนี้ใน PAYG ก็ไม่ต้องใส่ครับ ข้ามไปเลย
- Tax withheld จำนวน Tax ที่นายจ้างหักไว้ ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านบนสุดเลยครับ
- ถ้ามีใบ PAYG ของสองที่ ก็ลงมาใส่อีกบรรทัดตามแบบข้างต้นใหม่ครับ จากนั้นคลิ๊ก Next
17. Allowance อันนี้เป็นข้อ 2 ที่อยู่ในส่วนของ income ครับ Allowance คือเงินพิเศษที่ให้นอกเหนือจากค่าจ้างครับ เช่นค่ารถ ค่าเดือนทาง ค่าโทรศัพท์ allowance ส่วนนี้จะแสดงอยู่ใน PAYG ด้วยเช่นกันครับ ถ้าไม่มีก็ไม่่ต้องใส่คลิ๊ก No ข้ามไปเลยครับ
18. ข้อที่ 3 - 7 ข้ามไปเลยครับ เพราะถ้าไม่ใช่ PR หรือ Citizen เราไม่มีสิทธิ์ในพวกนี้อยู่แล้วครับ ให้คลิ๊ก No ไปเรื่อยๆ จนถึงข้อ 8 หรือข้ามไปคลิ๊กข้อ 8 เลยก็ได้ครับ
19. ข้อ 8 Australian superannuation lump sum payment ข้อนี้คือส่วนของซุปเปอร์ ถ้าใครได้รับเงินเรียบร้อยแล้วภายในปีภาษีนี้ สามารถใส่เพิ่มเติมไปในข้อนี้ได้ การจะเติมข้อนี้ต้องมีใบ Summary จากทาง Super fund ที่เราเป็นสมาชิกอยู่ ใบนี้จะได้มาพร้อมกับเงินที่ได้รับคืนครับใครมีข้อนี้ให้คลิ๊ก Yes ใครไม่มีคลิ๊ก No ครับ
19.1 ใครที่คลิ๊ก Yes สำหรับซุปเปอร์ก็ต้องกรอกข้อมูลลงไปตรงนี้ด้วย
- Payer's name: ใส่ชื่อคนที่จ่ายเงินให้เรา ชื่อนี้ไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกับชื่อซุปเปอร์ของเรา แต่อาจจะเป็นชื่อบริษัทใหม่เลยที่เราไม่คุ้นก็ได้ ให้เช็คกับใบที่เขาแจ้งมาครับ
- Payer's Australian business number ใส่ ABN ของบริษัทที่จ่ายซุปเปอร์ให้เรา
- Date of payment วันที่จ่ายเงินให้เรา ตามที่เขียนใน summary
- Total tax withheld ใส่จำนวน Tax ที่โดนหักไว้
- Taxed element ใส่จำนวนเงินซุปเปอร์ทั้งหมดที่เราได้รับ (จำนวนได้หัก Tax ไว้แล้ว)
- Untaxed element จำนวนเงินที่ไม่ได้หัก Tax ไว้ ระวังให้ดีถ้าใส่ผิดจะโดนหัก Tax เพิ่ม ถ้าไม่มีส่วนนี้ให้เว้นว่างไว้
- Tax free component จำนวนเงินที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี ถ้าไม่มีให้เว้นว่างไว้
- Is this payment a death benefit? ให้ติ๊กที่ No
- จากนั้นคลิ๊ก Next เพื่อไปหน้าถัดไป
20. ข้อ 9 คลิ๊ก No หรือข้ามไปทำข้อ 10 ครับ
21. ข้อ 10 Gross Interest ใครมีดอกเบี้ยที่ได้จากธนาคาร ก็ให้ใส่ช่องนี้ไป ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ครับ สามารถดูได้จาก statement ของ ธนาคารตอนสิ้นปีภาษีครับ เพราะบางที่จะหักภาษีไว้ด้วยครับ และถ้าเราไม่ให้ TFN ไว้ก็จะโดนหักไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นจากดอกเบี้ยที่ได้ครับ ซึ่งถ้าใครโดนหักไปก็สามารถนำมาลดหย่อนเพิ่มเติมได้ครับ
เมื่อคลิ๊กเข้ามาก็จะให้กรอกรายละเอียด
- Description ให้ใส่รายละเอียดว่าเป็นอะไรครับ เช่น Interest from NAB เป็นต้น
- Your share of gross interest ได้ดอกเบี้ยทั้งปีเท่าไหร่ (ดูยอดจากสรุป Statement ครับ) เช่น 69
- Your share of TFN amount withheld ใส่ภาษีที่โดนหักไปตาม Statement เช่น 23 จากนั้นก็คลิ๊ก Next
22. ข้อ 11-24 เป็นรายได้อื่นๆ ที่ได้จากการลงทุน ค่าเช่า ซึ่งส่วนใหญ่พวกเราจะไม่มี อันนี้ขอข้ามเลยนะครับ ให้คลิ๊ก No ไปเรื่อยๆ จนถึง income summary หรือข้ามไปคลิ๊กที่ income summary เลยครับก็จะได้หน้านี้โผล่ขึ้นมา เช็คความถูกต้องแล้วก็คลิ๊ก Next เพื่อทำ part ต่อไป
23. ให้คลิ๊กไปที่ tab medicare item ทางด้านซ้ายมือ หน้าจอในส่วนของ medicare ก็จะขึ้นมา คลิ๊ก Next
24. จากนั้นก็จะเจอคำถาม M1- Were you a low-income earner or you were one of the Medicare reduction or Medicare levy exemption categories? คุณเป็นพวกรายได้น้อย หรือ ได้รับการยกเว้นในการจ่ายค่า Medicare หรือไม่ ให้คลิ๊ก Yes
ขออธิบายเพ่ิมเติมว่าข้อ M2 นี้มีอยู่ 2 ประเด็นคือ
- Lower-income earner หลายคนสงสัยว่าเท่าไหร่ล่ะ ถึงจะเรียกว่า lower income ซึ่งทาง ATO ก็ได้มีการกำหนดไว้ดังนี้
- lower income threshold $19,404*
- upper income threshold $22,828*
ถ้ารายได้ทั้งปีของเราไม่ถึง 19,404 ก็จะไม่ต้องเสีย Medicare levy ในส่วนนี้แต่อย่างได คลิ๊ก Yes ไปได้เลย โดยที่ไม่ต้องขอเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม
- Medicare levy exemption สำหรับคนที่ถือวีซ่า work and holiday (WAH) หรือ temporary visa อื่นๆ จะได้รับการยกเว้นในการจ่าย Medicare levy ครับ สาเหตุที่รับการยกเว้นคือ เราไม่ได้รับสิทธิประโยชน์อะไรจาก Medicare เลยครับสำหรับวีซ่าอย่างเรา แต่การที่ได้ exemption นั้น ก็ต้องมีหลักฐานประกอบด้วยเช่นกัน นั่นคือ Medicare levy exemption certificate ซึ่งสามารถโหลดได้จากลิงค์นี้ครับ
25. จากนั้นโปรแกรมจะถามถึงจำนวนบุตรที่มีในระหว่างปีภาษี ให้ใส่ ศูนย์ จากนั้นคลิ๊ก Next
26. Medicare levy reduction or exemption เราได้รับการยกเว้นในการจ่าย Medicare levy หรือไม่ คลิ๊ก Yes เพราะเราเข้าข่าย Category 3 ครับ คือ Not entitled to Medicare benefit
27. จากนั้นโปรแกรมจะให้ใส่ว่าเราเข้าข่าย Exemption อันไหน ให้ไปที่ Category 3 ครับ ที่ช่องล่างสุด You have a certificate from the Medicare Levy Exemption Certification Unit ให้ใส่ตัวเลข 366 (จำนวนวันของทั้งปีของปีที่แล้ว ที่เราไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จาก Medicare) จากนั้นก็คลิ๊ก Next
28. โปรแกรมจะขึ้นมาคอนเฟิร์มว่าเราอยู่ใน Exemption Category ที่ 3 และให้กรอกข้อมูลเพิ่มเติมครับ ที่ช่อง You did not have any dependants for that period จำนวนวันที่คุณไม่มีผู้ติดตามตลอดทั้งปี ให้ใส่ 366 เช่นกันครับ จากนั้นคลิ๊ก Next
29. คำถาม M2 Medicare levy surcharge Were you and all your dependats, including your spouse, covered by an appropriate level of private patient hospital cover for the whole period? คุณมีประกันที่คุ้มครองเวลาที่ต้องเข้าโรงพยาบาลหรือไม่ ซึ่งวีซ่านี้ต้องทำประกันก่อนมาอยู่แล้ว (ถึงแนะนำให้ทำประกันมา หรือมาต่อประกันที่ออสเตรเลียก็ได้ แต่มาต่อที่ออสปลอดภัยกว่า)
ถ้าใครมีประกันที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นปีภาษี คือ 01/07/2011 ก็ตอบ Yes ครับ แล้วกรอกข้อมูลตาม 29.1 ไม่มี หรือประกันไม่ครอบคลุมตั้งแต่เริ่มต้นปีภาษี ก็ตอบ No แล้วข้ามไปดูตามข้อ 29.4
29.1 ในกรณีตอบ Yes ให้กรอกข้อมูลลงไปครับ
- Start date: ใส่วันที่ประกันเริ่มคุ้มครอง หรือ 1/07/2011
- End date: ใส่วันที่ประกันสิ้นสุดลง หรือใส่ 30/06/2012 แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน
- Type of cover: ให้ใส่ H คือ Hospital cover หรือใส่ C ซึ่งเป็น combined hospital + general
- Health insurer ID ใส่ตามด้านล่างได้เลย หาไม่เจอใส่ OTH
- ACA ACA Health Benefits Fund Limited
- AHB Army Health Benefits Society
- AHM Australian Health Management Group
- AMA The Doctors’ Health Fund Limited
- AUF Australian Unity Health Limited
- BUP BUPA Australia
- CBH CBHS Health Fund Limited
- CDH Cessnock District Health Benefits Fund Limited
- CPS CUA Health Limited
- FAI Grand United Corporate Health
- GMH Geelong Medical and Hospital Benefits Association
- HBF Hospital Benefits Fund of WA Inc
- HCF Hospitals Contribution Fund of Australia, Limited
- HCI Health Care Insurance Limited
- HEA Health.com.au
- HHB Healthguard Health Benefits
- HIF Health Insurance Fund of WA
- LHM Peoplecare Health Insurance
- LHS Latrobe Health Services Inc
- MBP Medibank Private
- MDH Mildura District Hospital Fund
- NHB Naval Health Benefits Society
- NIB N.I.B Health Funds Limited
- NTF NSW Teachers Federation Health Society
- OMF One Medifund (National Health Benefits Australia P/L)
- OTH Other – Not listed
- PWA Phoenix Health Fund Limited
- QCH Queensland Country Health Limited
- QTU Teacher's Union Health
- RBH Reserve Bank Health Fund Friendly Society Limited
- RTE Railway and Transport Employees' Friendly Society Health Fund
- SLM St Luke’s Care
- SPE SA Police Employees Health Fund Inc
- SPS Health Partners
- TFS Transport Friendly Society
- WFD Western District Health Fund Limited (WESTFUND)
- Membership number ใส่เลขที่สมาชิก จากนั้นคลิ๊ก Next โปรแกรมจะให้ใส่ชื่อบริษัทประกัน จากนั้นคลิ๊ก Next
29.2. โปรแกรมจะขึ้นหน้าจอ confirm ว่าจะต้องเสียตังค์เพิ่มหรือไม่ ตรวจสอบความถูกต้อง คลิ๊ก Next
29.3 ดู Summary ถึงความถูกต้อง แล้วจากนั้นข้ามไปทำข้อ 30
29.4 ในกรณีที่ตอบ No จากข้อ 28 โปรแกรมจะคำนวณว่า คุณได้รับการยกเว้นจาก Surcharge หรือไม่ โดยจะให้กรอกว่ามีบุตร หรือเด็กในความรับผิดชอบหรือไม่เพื่อที่จะนำไปลดหย่อน ให้ใส่ ศูนย์ครับ จากนั้นคลิ๊ก Next
29.5 จากนั้นโปรแกรมจะขึ้นมาถามว่า were you or any of your dependants in a Medicare Levy Exemption Category? คุณอยู่ในประเภทได้รับการยกเว้นในส่วนของ Medicare Levy Exemption ให้ตอบ Yes
29.5 ตรงนี้เขาจะบอกว่าในฐานะที่เราอยู่ใน Exemption Category ให้ใส่รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของประกันที่ไม่ครอบคลุมตั้งแต่เริ่มต้นปีภาษี
- Start date: ใส่วันที่ประกันเริ่มคุ้มครอง เช่น 19/09/2011
- End date: ใส่ 30/06/2012
- Type of cover: ให้ใส่ H คือ Hospital cover หรือใส่ C ซึ่งเป็น combined hospital + general
- Health insurer ID ใส่ตามด้านล่างได้เลย หาไม่เจอใส่ OTH
- ACA ACA Health Benefits Fund Limited
- AHB Army Health Benefits Society
- AHM Australian Health Management Group
- AMA The Doctors’ Health Fund Limited
- AUF Australian Unity Health Limited
- BUP BUPA Australia
- CBH CBHS Health Fund Limited
- CDH Cessnock District Health Benefits Fund Limited
- CPS CUA Health Limited
- FAI Grand United Corporate Health
- GMH Geelong Medical and Hospital Benefits Association
- HBF Hospital Benefits Fund of WA Inc
- HCF Hospitals Contribution Fund of Australia, Limited
- HCI Health Care Insurance Limited
- HEA Health.com.au
- HHB Healthguard Health Benefits
- HIF Health Insurance Fund of WA
- LHM Peoplecare Health Insurance
- LHS Latrobe Health Services Inc
- MBP Medibank Private
- MDH Mildura District Hospital Fund
- NHB Naval Health Benefits Society
- NIB N.I.B Health Funds Limited
- NTF NSW Teachers Federation Health Society
- OMF One Medifund (National Health Benefits Australia P/L)
- OTH Other – Not listed
- PWA Phoenix Health Fund Limited
- QCH Queensland Country Health Limited
- QTU Teacher's Union Health
- RBH Reserve Bank Health Fund Friendly Society Limited
- RTE Railway and Transport Employees' Friendly Society Health Fund
- SLM St Luke’s Care
- SPE SA Police Employees Health Fund Inc
- SPS Health Partners
- TFS Transport Friendly Society
- WFD Western District Health Fund Limited (WESTFUND)
- Membership number ใส่เลขที่สมาชิก
- จากนั้นให้ใส่จำนวนวันที่เราไม่ต้องเสียค่า Medicare surcharge ให้ใส่ 366 ลงไป จากนั้นคลิ๊ก Next
29.6 จากนั้นจะมีหน้า Summary ขึ้นมาให้ดูเพื่อเช็คความถูกต้อง คลิ๊ก Next
30. ตอนนี้ให้คลิ๊กไปที่แทป Tax Estimate ว่าเราได้คืนภาษีหมดหรือไม่ ถ้ารายได้น้อย หัก tax ไว้ไม่เยอะ น่าจะได้คืนเกือบหมด หรือทั้งหมด ก็ตรวจดูความเรียบร้อยแล้วข้ามไป lodge tax ได้ข้ามไปข้อ...ได้เลย
แต่ถ้ายังได้คืนไม่หมด ให้ไปคลิ๊กที่แทป Deduction ก็จะมีข้อมูลโผล่ขึ้นมา โดยที่จะมีอยู่ 15 ข้อด้วยกัน โดยที่ส่วนใหญ่ที่ชาว WAH สามารถนำมาลดหย่อนได้คือ D5 (work related clothing) และ D5 (other work related expense) ครับ หลายคนสงสัยว่าเราจะเคลมข้อ D1 (work related - car expense) กับ D2 (work related -travel expense) ได้หรือไม่ คำตอบคือได้ครับ ถ้ามีส่วนให่เคลมตรงนี้อยู่ เช่นค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าจอดรถ ค่าเรือ ค่ารถบัส เป็นต้น
แต่การเคลมทั้งสองส่วนนี้ จะต้องเป็นการเคลมเฉพาะในส่วนของการทำงานเท่านั้นและต้องมีหลักฐานเพื่อที่จะนำไปแสดงได้ด้วย เช่น สมุดจดบันทึก หรือใบเสร็จต่างๆ โดยจะต้องเป็นการเดินทางระหว่างการทำงาน 2 ที่ เช่น จากงานที่ 1 ไปงานที่ 2 (second job) เป็นต้น
EXAMPLE
Sue is a clerk at a large department store. She travelled by bus from her
normal workplace to her second job as a waitress. After finishing work as a
waitress, she went directly home.
Sue’s travel costs from her normal workplace to her second job are an allowable deduction. However, she cannot claim the cost of travelling home from her second job.
Sue’s travel costs from her normal workplace to her second job are an allowable deduction. However, she cannot claim the cost of travelling home from her second job.
ทั้งนี้การเดินทางระหว่างบ้านไปที่ทำงาน และที่ทำงานกลับไปยังบ้าน ไม่สามารถนำมานับรวมกับส่วนนี้ได้ เพราะถือว่าเป็นการเดินทางส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับงาน
ใครมีรายละเอียดในส่วนนี้ก็สามารถกรอกได้เลย คลิ๊ก Next
31. D3, Work related clothing ใครที่ทำงานที่ร้านอาหาร หรือโรงงาน อาจจะเคลมเงินส่วนนี้ได้ หลักๆ มี 4 อย่างด้วยกัน
- อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย เช่นค่าถุงมือที่นายจ้างบังคับให้ต้องมีเวลาทำงานเพื่อความปลอดภัย รองเท้าที่ใส่เพื่อกันลื่น แว่นตา เป็นต้น
- เครื่องแบบ ที่ถูกบังคับให้ใส่เวลาทำงาน เพื่อที่จะให้รู้ว่าเป็นพนักงานของบริษัทนั้นๆ เช่น เครื่องแบบร้านแม็คโดนัลด์ เป็นต้น
- occupation specific clothing เช่น เครื่องแบบของ Chef หมวก Chef เสื้อกั๊กสะท้อนแสงเวลาไปทำถนน เสื้อกราวน์หมอ เป็นต้น
- ค่าซักรีด ชุดที่กล่าวมาข้างบน ใส่ได้ไม่เกิน 150 และรวมกับค่าใช้จ่ายที่เหลือต้องไม่เกิน 300 ถ้าเกินต้องมีใบเสร็จ
- สิ่งของเหล่านี้ถ้ารวมทั้งหมดไม่เกิน 300 ไม่ต้องมีใบเสร็จ แต่ถ้าเกิน 300 ต้องมีใบเสร็จทั้งหมดไม่ใช่เฉพาะส่วนที่เกิน 300
ถ้าใครมีในส่วนนี้ให้คลิ๊ก Yes อย่าลืมดูให้สัมพันธ์กับงานด้วยนะครับ
32. หน้าจอจะขึ้นมาเตือนว่าต้องมี written evidence ด้วย คลิ๊ก Next
33. แล้วก็ใส่รายละเอียด เช่น Uniform ใส่จำนวนเงิน แล้วอย่าลืมติ๊กว่า เป็นค่าใช้จ่ายประเภทไหน จากนั้นก็คลิ๊ก Next
34. D5 other work related expenses ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก D3 เช่นหมวกนิรภัย แว่นตานิรภัย เป็นต้น ค่าใช้จ่าย ต้องรวมกันทั้งหมดกับข้อ D3 ไม่เกิน 300 นะครับ ไม่งั้นต้องมีใบเสร็จด้วย ถ้าใครมีส่วนนี้ ก็คลิ๊ก Yes
35. กรอกรายละเอียด กรอกแค่ในตารางครับ ด้านล่างไม่ต้องสนใจมัน เดี๋ยวจะสับสน จากนั้นก็คลิ๊ก Next
36. ข้อที่เหลือ D6 - D15 + L1 (อย่างกับสมการตอนเรียนเลขเลย) ไม่น่าจะมี สามารถข้ามไปได้เลย หรือคลิีก No ไปเรื่อยๆ จากนั้นลองมาดู ที่ Tax Estimate อีกครั้งว่าได้เงินเพิ่มมาอีกเท่าไหร่ คนที่ไม่มีประกันที่ทำในออสเตรเลีย น่าจะหมดเพียงเท่านี้ ก็สามารถ lodge tax ได้เลย แต่ถ้าใครคิดว่าน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ก็ถามกันมาก่อนก็ได้ครับ
37. ส่วนคนที่มีประกันที่ทำในออสเตรเลีย สามารถเคลม Tax offset เพิ่มได้อีกครับ ให้คลิ๊กไปที่แทป Tax offset.
38.1 ข้อ T1- T4 เราไม่สามารถเคลมได้ครับ วีซ่าเราไม่สามารถใช้ส่วนนี้ได้ ทั้งเคลมในส่วนของคู่ครอง Pension ฯลฯ ให้เราคลิ๊กไปที่ข้อ T5 ครับ Private Health Insurance: ประกันสุขภาพ ซึ่งก่อนที่จะมากรอกข้อนี้ได้ต้องขอ Health Insurance Statement จากจ้าวที่ทำประกันอยู่ที่ออสเตรเลีย ยกตัวอย่างเช่น ทำของ BUPA ไว้ก็ติดต่อที่ BUPA หรือสามารถดาวน์โหลดออนไลน์จากเว็บไซต์ประกันนั้นๆ
คลิ๊ก T5 มันก็จะขึ้นคำถามว่า Did you or your employer on your behalf, pay a premium...? คุณหรือบริษัทได้มีการจ่ายค่าเบี้ยประกันสำหรับประกันสุขภาพหรือไม่ ก็ให้คลิ๊ก Yes
39. กรอกรายละเอียดเพิ่มเติมไปครับ
- Type of cover ชนิดประกัน ให้ใส่ H หรือ C ให้ตรงกับที่เราเคยกรอกไว้ในส่วนของ M2
- Insurer ID ใส่ ID ของคนที่เราทำประกันด้วย เช่น ของ BUPA ใส่ BUP, Medibank ใส่ MBP เป็นต้น
- Membership no. ใส่เลขที่สมาชิก
- G ใส่จำนวนตามที่ปรากฏใน Statement ที่ได้มา
- Share % ให้ใส่ตามที่อยู่ใน Statement ส่วนใหญ่จะเป็น 100
- ช่องอื่นๆ ไม่ต้องใส่ครับโปรแกรมจะคำนวณให้เอง จากนั้น คลิ๊ก Next
40. ข้อนี้สำหรับคนที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมากว่า 2,060 เหรียญในปีภาษีนั้นๆ นะครับ คลิ๊กไปที่ T9 - 20% offset on net medical expenses จำนวนนี้คือส่วนที่หักจากเงินที่ได้รับคืนจากประกันแล้วนะครับ สรุปคือเป็นส่วนที่จ่ายไปทั้งหมดจริงๆ ที่ประกันไม่คุ้มครองครับ จะได้ Tax offset คืน 20% จากจำนวนที่จ่ายไปครับ ใครมีก็ใส่ข้อนี้ไป แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีครับ
เท่านี้ก็หมดแล้วครับ ไม่น่าจะเคลมส่วนอื่นๆ ได้อีก ส่วนใครที่มาวีซ่าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ WAH ที่มีผู้ติดตามมาด้วยอาจจะขอเพิ่มเติมได้มากกว่านี้ในส่วนของ spouse ครับ (ไม่ขอพูดในที่นี้ละกันนะครับ)
41. จากนั้นเราก็คลิ๊กไปที่ Tax Estimate ครับ เพื่อทำการตรวจดูรายละเอียดให้เรียบร้อยก่อน คลิ๊ก Next
โปรแกรมก็จะให้เราพิมพ์ไฟล์เก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยส่วนตัวผมเลือกเก็บเป็น PDF ครับ จะพิมพ์มาใช้งานเมื่อไหร่ก้ได้ครับ คลิ๊กที่ Preview or print และตรวจสอบรายละเอียดอีกรอบหนึ่ง เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วค่อยคลิ๊ก Next
42. โปรแกรมจะขึ้นมาเตือน error ถ้าเราเห็นว่าผิดจริง ก็กลับไปแก้ แต่ถ้ามันถูกต้องแล้วก็คลิํก Yes ครับ ก็จะมีหน้า Checklist โผล่ขึ้นมา
หลายๆ คนจะมี error เรื่อง ดอกเบี้ยครับลองเช็ึคดูดีๆ เพราะบางทีธนาคารอาจจะหักภาษีสำหรับดอกเบี้ยที่เราจ่ายไปโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งสามารถเคลมเงินส่วนนี้คืนได้ แต่ถ้าแน่ใจว่าไม่มีดอกเบี้ยแน่ๆ ให้คลิ๊ก Yes ไปครับ
อีกหลายๆ คนจะติดเรื่อง Super co-contribution ครับ if you made a personal (after tax) super contribution to a complying super fund. you may want to review item A3 - Super co-contribution
ให้กลับไปทำในส่วนของ Income Test ครับ แล้วคลิ๊ก No ให้หมด เพราะเราไม่มี Super co-con (เป็นเงินที่เราจ่ายเองเพื่อเข้าซุปเปอร์ครับ ไม่ใช้่เงินที่นายจ้างจ่ายให้เพื่อเข้าซุปเปอร์ แต่ถ้าใครมีก็สามารถเคลมส่วนนี้คืนได้อีกด้วยครับ)
จากนั้นก็คลิ๊ก Yes ทีนี้น่าจะผ่านทั้งหมดแล้วล่ะครับ
43. จากนั้นก็เป็นหน้า Declaration เรากรอกข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน ไม่มีการตั้งใจกรอกผิดรวมทั้งทำข้อ M2 เรียบร้อยแล้ว ถ้าเรามั่นใจว่าถูกต้องครบถ้วนแล้วก็ให้คลิ๊ก Yes ไปครับ
44. จากนั้นจะเข้าสู่หน้า verification ซึ่งหลักๆ จะมีอยู่ 2 อย่าง
- ถ้าคนที่เคยทำ Tax Return ตั้งแต่ปีที่แล้ว จะได้ใบ Notice of Assessment ให้ใช้ข้อมูลจากในนั้นเป็นตัว verify
- ส่วนคนที่ทำ Tax Return ครั้งแรกจะ verify จากข้อมูลที่ ATO มีอยู่ เช่น Bank account number.
คลิ๊ก Next และกรอกข้อมูลไปเรื่อยๆ ครับเมื่อข้อมูลถูกต้องก็จะมี Password ขึ้นมาเพื่อใช้ในการส่งข้อมูลขั้นสุดท้ายเป็นอันเสร็จพิธี รอประมาณ 1-2 อาทิตย์ก็จะได้เงินคืนเข้าบัญชี พร้อมกับ Notice of assessment มาเป็นที่ระลึก เพื่อไว้ใช้ในการเคลมภาษีของปีถัดไป
ใครมีอะไรสงสัยสอบถามมาได้ครับ หรือเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บ ATO ครับ ที่ www.ato.gov.au ครับ
This comment has been removed by the author.
ReplyDeleteขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ
Deleteในส่วนของ Medicare ในส่วนนี้เราจะโดนหักเยอะหรือไม่ครับ? (ลองทำเองปีแรกครับ)
**รู้ว่าเราไม่ได้รับสิทธิ์ และหักจากเงินภาษีของเรา แต่ไหนจะต้องปริ้นฟอร์ม แล้วตามหา JP เซ็นรับรองเอกสาร (อยู่ Melbourne ครับ) ค่าส่งเอกสารไปตามที่อยู่อีก ค่าใช้จ่ายก็พอสมควรนะครับ
ขอคำแนะนำหน่อย
เห็นเพื่อนว่าถ้าทำปีแรกต้องปริ้นออกมา แล้วส่งไปตามที่อยู่ของ ATO เราสามารถส่ง Online ได้เหรอครับ? เริ่มสับสนละ
โดนหักประมาณ 1.5% ครับถ้าจำไม่ผิด ลองทำดูก็ได้ครับ แต่อย่าเพิ่ง lodge จะได้ดูเปรียบเทียบระหว่างเสีย Medicare กับไม่เสียเนี่ยส่วนต่างมันเท่าไหร่ แต่ถ้ารายได้ทั้งปีเราน้อยมาก หรืออยู่ใน lower income threshold เราก็ไม่เสียอยู่แล้วครับ
Deleteปีแรกก็สามารถเคลมออนไลน์ได้ครับ ลองเช็คดูว่าเลขบัญชีที่ให้กรอก กับเลขบัญชีที่ต้อง verify ตอนท้ายสุดมันตรงกันหรือเปล่า เพราะบางคนใส่ไม่ตรงกันมันจะไม่ยอมให้ผ่านครับ ถ้ายังติดอีกไม่สามารถ lodge ได้ให้โทรไปอัพเดทข้อมูลเรื่องเลขบัญชีที่ ATO ครับ เพื่อนๆ หลายคนในนี้ก็สามารถทำออนไลน์ในปีแรกได้ครับ แต่ถ้าติดอย่างไรก็เมลล์มาถามก่อนได้ครับ
ส่วนคนที่ทำ Tax Return ครั้งแรกจะ verify จากข้อมูลที่ ATO มีอยู่ เช่น Bank account number. แต่เราไม่มี Gross payment ของปี 2010-2011 มันบอกว่าของเรา not match ติดอยู่แค่ตรงนี้อย่างเดียวค่ะ หมดปัญญาแล้ว ยังไงก็ช่วยหน่อยนะคะ
ReplyDeleteขอโทษทีครับที่มาตอบช้า เผอิญคอมเสีย ลองเช็คดูครับว่า ข้อมูลเลขบัญชีของเราเป็นเลขเดียวกันกับที่ให้นายจ้างไว้หรือเปล่า ให้ใช้เลขเดียวกันตลอดทั้งการทำ Tax return เลยครับ ไม่งั้นจะส่งไม่ผ่าน ถ้าเช็คแล้วว่าทุกอย่างตรงกันแล้วยังส่งไม่ได้อีก ให้โทรไปอัพเดทข้อมูลที่ ATO ครับ
Delete1.PAYG Payment Summary นายจ้างจะออกให้หรือเราต้องขอไปที่นายจ้างอะคะ
ReplyDelete2.แล้ว Medicare Levy exemption นี่จำเป็นต้องใช้ใช่ไม๊คะ
3. อย่างพวกค่าลดหย่อนพวกเสื้อผ้า ต้องมีหลักฐานจากนายจ้างหรือเปล่าคะ หรือแค่ใบเสร็จที่เราซื้อก็พอ
ขอบคุณมากค่ะ
ถ้าผมปิด บัญชีแบงค์ที่โน้น ไม่ได้กรอกลง e-tax ATOจะจ่ายแบบไหนครับ
ReplyDeleteกำลังทำtax return ด้วยตัวเองอยู่คะแต่ติดตรงที่มันมี Private health insurance policy details เพิ่มขึ้นมาต้องทำอย่างไรคะ
ReplyDeleteขอบคุณนะค้าาา ช่วยชีวิตไว้แท้ๆ มีประโยชน์มากค่ะ :))
ReplyDeleteThank You and I have a swell present: Where To Buy Houses That Need Renovation home repairs contractors near me
ReplyDelete